รายละเอียด:
ประวัติย่อ หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี ท่านเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2466 ต.เกาะปอ อ.เกาะกง จ.ปัจจันตคีรีเขต(ปัจจุบันคือ จ.กำปอด) ประเทศกัมพูชา ต่อมาเมื่อประมาณปี พ.ศ 2480 ขณะนั้นท่านอายุได้ประมาณ 14 ปี เป็นช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามอินโดจีน ซึ่งโยมพ่อ และโยมแม่ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว ท่านก็ได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดเกาะปอคงคาราม โดยมีพระครูบัวตูมรัตนสาครเป็นพระอุปัชฌาย์ บวชเป็นเณรได้เพียง 1 ปี ก็ต้องอพยพหนีภัยสงครามมาอยู่ที่เมืองไทย โดยหนีมาทางน้ำ แจวเรือมากับหลาน และน้องชาย รวมทั้งพระสงฆ์รูปอื่น ๆ หลบหนีออกมา เมื่อมาถึงเมืองไทยได้แวะพักอยู่ที่เขาวงก่อน ต่อมาจึงได้มาอยู่ที่วัดคลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ขณะที่อยู่ที่วัดคลองใหญ่นี่เอง ท่านได้เริ่มเรียน เวทย์มนต์คาถาต่าง ๆ เช่น คาถาโคมแก้ว คาถาเจริญคุณ คาถาลายลักษณ์ และวิชาอาคมต่างๆด้วย รวมถึงวัตรปฏิบัติ เบ็ดเตล็ดต่าง โดยมีพระครูบัวตูมรัตนสาคร เป็นผู้ถ่ายทอดให้วันละคำสองคำ ท่านก็ได้ จดจำร่ำเรียนมา และเนื่องจากการที่ท่านมีนิสัยรักการอ่านเขียน มีความจำแม่น ท่องเก่งมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังอาศัยอยู่กับโยมพ่อและโยมแม่ รวมทั้งการที่ท่านได้อาศัยอยู่วัดตั้งแต่เล็ก ทำให้ท่านมีความชำนาญ เชี่ยวชาญในความรู้ต่าง ๆ ท่านอาศัยอยู่ที่วัดคลองใหญ่ได้ประมาณ 3 เดือน ก็เริ่มออกธุดงค์ ธุดงค์ครั้งแรกมาทางป่า แถบเทือกเขาบรรทัด จ.ตราด ขณะที่ท่านเดินธุดงค์อยู่บริเวณ แหลมตะก้อ จ.ตราด ได้เดินผ่านบ้านที่กำลังนวดข้าว ท่านก็แวะพักในบริเวณนั้น ได้หลับ และฝันไปว่ามียักษ์ได้แปลงร่างเป็นพญานกแร้งปากแหลม ตัวใหญ่เข้ามาจะทำร้าย ก็ได้ต่อสู้ตีกันเป็นพัลวัน และท่านได้อธิษฐานจิตว่า “แม้ว่าข้าพเจ้าจะได้อยู่รับใช้ในบวรพระพุทธศาสนาตลอดไป ก็ขอให้ได้ชัยชนะแก่พญานกนี้เทอญ” ในที่สุดท่านก็ได้รับชัยชนะ และจากนิมิตนี้เอง ทำให้ท่านมีความมั่นใจว่า ท่านสามารถอยู่ในร่มกาสาวพัตร แห่งพระบรมศาสดาได้ตลอดไป เพราะสามารถต่อสู้กับอธรรม และกิเลสดั่งเช่นพญานกแร้งได้ดังจิตอธิษฐาน ท่านออกเดินธุดงค์อยู่องค์เดียวเรื่อยมาจนถึงชายเขา ก็ได้มาเจอพระสายธรรมยุตของวัดคีรีวิหาร หลวงปู่ได้เห็นวัตรปฏิบัติของพระวัดนี้แปลกออกไปจากที่หลวงปู่ปฏิบัติอยู่ แต่ในที่สุดท่านก็ได้ขอบวชเป็นธรรมยุต เมื่อท่านมีอายุได้ 21 ปี ประมาณปี พ.ศ.2487 ขณะนั้นท่านได้พำนักอยู่ที่วัดเขาแก้ว ท่านเจ้าคุณวินัยบัณฑิต เจ้าคณะจังหวัดตราด ก็ได้ทำหนังสือส่งตัวฝากมายังหลวงพ่อลี ธัมมธโร (ท่านพ่อลี แห่งวัดอโศการาม ซึ่งขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี) พร้อมกับเณรอีก 2 รูป ท่านพ่อลีก็จัดการบวชให้ ณ พัทสีมาวัดจันทนาราม ต.จันทนิมิตร อ.เมือง จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2487 เวลา 15.15 น. โดยมีพระอมรโมลี เป็นพระอุปปัชฌาย์ และมีท่านพ่อลี ธมฺมธโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ในสังกัดธรรมยุตินิกาย ได้รับฉายาว่า ธมฺมจารี แปลว่า ผู้ประพฤติธรรม หลังจากบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ท่านก็มาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าคลองกุ้ง อ.เมือง จ.จันทบุรี และอยู่ศึกษาพระธรรมวินัย ท่านพ่อลีเห็นแววว่า “ พระภิกษุพิศรูปนี้ ต่อไปจะได้บวชยาว และจะได้ดีในวันข้างหน้า “ จึงรับไว้ในการดูแลและให้ช่วยงานอยู่วัดป่าคลองกุ้ง หลวงปู่พิศดูท่านเป็นคนที่มีปัญญา และความจำเป็นเลิศมาก ไม่ว่าจะเรียนรู้อะไรก็สามารถสำเร็จและเจนจบได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่การท่องจำบทพระปาฏิโมกข์ก็สามารถท่องจำได้จบภายใน 15 วัน โดยที่ไม่ต้องเปิดทวนตำราเลย จากนั้นจึงเข้าสู่เส้นทางศึกษาการปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง และได้เที่ยวเดินตามธุดงค์ไปกับท่านพ่อลีและคณะ หลวงปู่พิศดูท่านเป็นพระที่ท่านพ่อลีไว้ใจ และโปรดปรานมากเป็นพิเศษ ถึงกับขนาดบอกและฝากฝังกับลูกศิษย์ต่างๆเอาไว้เลยว่า..
“ ต่อไปภายหน้าถ้าเกิดเรา(ท่านพ่อลี)ไม่อยู่แล้ว ให้พวกเธอไปหาท่านพิศดูแทน ต่อไปท่านพิศดูท่านจะแทนเราได้..”
เนื่องจาก หลวงปู่เป็นพระที่ชอบความสงบสันโดษ ท่านจึงกราบขออนุญาตท่านพ่อลีไปจำพรรษาต่อที่วัดทรายงาม ต.หนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี ในช่วงพรรษาที่ 14-18 ตรงกับปี พ.ศ.2501 – 2505 ต่อมาปี2517 ก็ได้มาพำนักอยู่กับวัดเขาสุกิม ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยการนิมนต์ของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย อยู่ที่นั่นได้ประมาณเกือบ 2ปี ปลายปี 2519 หลวงปู่พิศดูได้มารักษาการเจ้าอาวาส อยู่ที่วัดเทพธารทอง ซึ่งสมัยนั้นยังมีสภาพเป็นวัดป่าและมีกุฏิเพียง2-3หลัง ปัจจุบันวัดเทพธารทอง เป็นวัดที่มีสภาพสวยงาม สิ่งก่อสร้างภายในวัดเป็นโทนสีเขียว ทั้งกุฏิที่ทาด้วยสีเขียว อุโบสถและวิหารประดับประดาด้วยกระเบื้องสีเขียว และภายในตัวตึกอาคารก็ยังคงทาด้วยสีเขียว หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี ปกครองดูแลวัดนี้ ตั้งแต่ พ.ศ. 2519 – 2554 หลวงปู่พิศดู เป็นลูกศิษย์ของท่านพ่อลี ธมฺมธโร แห่งวัดอโศการาม และท่านได้ยึดแนวปฏิบัติสายพระป่าของพระอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่สำคัญหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโณยังได้กล่าวยกย่องหลวงปู่พิศดู ว่า เป็นเพชรน้ำหนึ่งแห่งภาคตะวันออก น่าเคารพศรัทธายิ่งนัก หลวงปู่พิศดู มรณภาพด้วยวัยชรา วันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2554 สิริอายุได้ 88 ปี
ร้านขอโชว์และรับเช่า เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง จันทบุรี สร้างปี 2540 เป็นเหรียญรุ่นแรก สร้างเนื้อทองแดงอย่างเดียว โดยทางคณะศิษย์ยุคแรกได้สร้างถวายให้ท่านเป็นเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2540 มีเนื้อทองแดงรมมันปู เพียงเนื้อเดียว จำนวนสร้างทั้งหมด 5,000 องค์ เหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่พิศดู มีประสบการณ์มากมายทั้งด้านคุ้มครอง โชคลาภ ค้าขาย ปัจจุบันเป็นเหรียญที่หายากมาก นานหลายปีกว่าจะเจอของแท้ๆในสภาพสวยสักเหรียญ ลูกศิษย์ในสายหลวงปู่พิศดู ตามเก็บกันหมด ทางร้านเอามาโชว์ เผื่อว่าใครมีเยอะต้องการจะแบ่งให้ทางร้านบูชายินดีรับเช่า ถ้าพระแท้ตามหลักสากลและสภาพดี ระวังของเก๊ฝีมือเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่พิศดู มีเยอะนะครับ ถ้าจะไปเช่าหาฟลุ้คตามร้านพระทั่วไปยากกว่าถูกหวยครับ
พนัสปราการ
080-0452649